“Quarter-life Crisis” จากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ วิกฤตของชีวิตที่มาโดยไม่มีสัญญาณเตือน

“Quarter-life Crisis” จากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ วิกฤตของชีวิตที่มาโดยไม่มีสัญญาณเตือน


สวัสดีปีใหม่ เผลอแป๊บเดียวก็เติบโตขึ้นมาอีกปีแล้วสินะ …

เคยรู้สึกเหมือนกันไหมว่า เวลาบนโลกนี้ช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจนไม่ทันได้ตั้งตัว ในขณะที่สิ่งต่าง ๆ รอบกายเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างแข่งขันไขว่คว้าหาชัยชนะ และถวิลหาความสำเร็จ บางครั้ง ฉันก็แค่อยากนั่งพักอยู่กับที่ ฉันเป็นเพียงวัยรุ่นที่ยังไม่มีแม้แต่ความฝัน แต่สังคมมักกดดันให้รีบค้นหา ฉันหวาดกลัว กังวล และกำลังหลงทาง แต่พ่อแม่กลับเร่งเร้าให้รีบตามหาเส้นทางของตัวเอง ฉันยังไม่อยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่เวลาที่แปรเปลี่ยนไปไม่เคยเดินถอยหลัง ฉันยังอายุไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ แต่กำลังพะว้าพะวังกับอนาคตในอีกสิบปีข้างหน้า และสุดท้ายฉันก็พบว่า ฉันกำลังสับสนและเคว้งคว้างในภาวะ “วิกฤตหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต”

.

Quarter-life Crisis หรือวิกฤตหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต คือภาวะที่ผู้คนในวัย 18-30 ปีเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง สับสน และเคว้งคว้าง จากการเผชิญหน้ากับช่วงเวลาแห่งการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ยังไม่คุ้นชิน และต้องเข้าสู่โลกของการทำงานซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นอกจากนี้ สภาพสังคมรอบข้างยังคอยกดดัน และเร่งเร้าให้เรารีบประสบความสำเร็จในการเรียนหรือสายงานที่ทำ คาดหวังให้เรามีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ทั้งยังตีกรอบชีวิตของเราในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ว่า ‘จบไปจะทำงานอะไร’ ‘เรียนจบแล้ว เมื่อไรจะรีบหางานทำ’ ‘ดูซิ คนอื่นเขาประสบความสำเร็จกันไปถึงไหนแล้ว’ และอีกสารพันคำพูดที่ถาโถมเข้ามา ทำให้วัยรุ่นตอนปลายและผู้ใหญ่ตอนต้นทั้งหลายที่กำลังเจ็บปวดกับรสชาติอันขมปร่าของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งรู้สึกทรมานใจ และตั้งคำถามต่อคุณค่าของชีวิตตัวเองมากขึ้น

.

หลายครั้งหลายครา ผู้ใหญ่ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนมักบอกให้ผู้ใหญ่มือใหม่ทั้งหลายรีบหางานทำให้เป็นหลักเป็นแหล่ง “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” พวกเขามักบอกเราแบบนั้น ทว่า การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในยุคสมัยอันไร้ซึ่งความมั่นคงเช่นนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ใครต่อใครคิด เพราะผู้คนในวัย 18-30 ปีบางคนนั้น อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนมากพอที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ไม่ทันไรก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งเสียแล้ว ความรู้สึกหวาดกลัว วิตกกังวล และสับสนจึงประเดประดังเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการศึกษาที่ไม่เอื้อให้วัยรุ่นได้ลองทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มีแต่จะต้องท่องจำบทเรียนที่ใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง แต่ทันทีที่ก้าวออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัย สังคมกลับคาดหวังให้เรารีบค้นหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้เจอทันทีเสียอย่างนั้น วัยรุ่นผู้เคยไม่ยี่หระกับเรื่องของอนาคต ในวันนี้กลับกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเสียแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะสามารถปรับตัวให้พร้อมตั้งรับกับภาระหน้าที่อันเคียงขนานมากับความเจ็บปวดนี้

.

ในช่วงเวลาแสนเคว้งคว้างที่ใครหลายคนต้องพบเจอวิกฤตหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต ทั้งยังต้องรับมือกับความกดดันซึ่งเกิดจากการทำงาน ครอบครัว สภาพสังคม และคนรอบข้าง ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้อาจทำให้เราเสียศูนย์และไม่รู้จะเดินไปทางไหน แต่ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใด โปรดเชื่ออยู่เสมอว่า ทุกวิกฤตของชีวิตย่อมมีจุดสิ้นสุด เหมือนฟ้าหลังฝนที่ย่อมสวยงามเสมอ

.

การจะผ่านพ้นวิกฤตหนึ่งส่วนสี่ของชีวิตไปได้นั้น การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เราอาจเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองเป็นอันดับแรก

- ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ ชื่นชมตัวเองให้เยอะ ๆ พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ

- ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะเราทุกคนล้วนมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันออกไป จึงไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนรอบข้าง

- ระบายความกังวลใจให้คนที่ไว้ใจฟัง ไม่เก็บกักความรู้สึกเจ็บปวดนั้นไว้จนมันกัดกินจิตใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ เราล้วนเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกและร้องไห้ได้เป็นเรื่องปกติ

- เริ่มต้นตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในชีวิต แล้วค่อยขยับไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นโดยไม่กดดันตัวเองมากจนเกินไป และไม่นำความคาดหวังของคนในสังคมมาตีกรอบชีวิตตัวเอง

.

เพราะจังหวะชีวิตของมนุษย์ทุกคนไม่เท่ากัน ฉะนั้น ต่อให้ค่านิยมในสังคมจะกดดันให้เรารีบเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากแค่ไหน หรือคาดหวังให้เราประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้นเพียงใด โปรดจดจำไว้เสมอว่า เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะกำหนดเส้นทางและความเร็วในการดำเนินชีวิตของตัวเอง ดังคำเปรียบเปรยที่ว่า “ดอกไม้นานาพรรณต่างมีฤดูกาลแห่งการผลิบานของตัวเองฉันใด มนุษย์เราก็มีช่วงเวลาแห่งการเติบโตเป็นของตัวเองฉันนั้น”

.

Flowers need time to bloom.

So do you.

.

เนื้อหา : ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

พิสูจน์อักษร : สุธินี จ่างพิพัฒนวกิจ และ พิชชาภรณ์ วรบุตร

ภาพ : ฮุสนา น้อยเรืองนาม

.

รายการอ้างอิง

Bradley University. (n.d.). Understanding The Quarter-life Crisis. Retrieved from https://onlinedegrees.bradley.edu/.../understanding-the.../


Ran Zilca. (2016). Why Your Late Twenties Is the Worst Time of Your Life. Retrieved from https://hbr.org/.../why-your-late-twenties-is-the-worst...