แล้วเต่าทะเลล่ะ? เรื่องเล่าชวนพิสูจน์ ‘โลกนี้ใจร้ายกับเต่าทะเล’
ทรายเปียกชื้นสัมผัสสากพิลึกพิลั่น อนธการมืดมิดใต้พื้นพิภพกับเกลือทะเลซึ่งกำจายกลิ่นฉุนร้ายกาจทำให้ผมประหม่ากลัวอย่างไร้สาเหตุ แต่สัญชาตญาณดิบกลับบอกให้ผมดิ้นสุดแรงเพื่อเอาชีวิตรอด เสียงกระซิบของ ‘โอซีอานัส’ เทพแห่งท้องทะเล บอกเวลาเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้น ผมดิ้น ‘สุดแรงเกิด’ เพื่อแหวกตัวเองออกจากเปลือกกับม่านเมือกสีขุ่น ๆ ที่ห่อหุ้มคลุมตัวผมอยู่ และเช่นเดียวกับผม พี่น้องของผม เราต่างพากันตะเกียกตะกายขึ้นมาบนผืนทราย
อา… แสงแดดยามเย็นช่างอบอุ่น อาทิตย์ยามอัสดงก็งดงามชวนให้ฝัน แต่ผมไม่มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศชั่วเวลานี้เท่าไรนัก สัญชาตญาณยังคงพร่ำบอกให้ ‘เรา’ รีบกระเสือกกระสนลงทะเลไป แล้วเราจะปลอดภัย…
หากสังเกตจากมุมสูง คงดูคล้าย ๆ กับฝูงปูแมงมุมอพยพ แต่ผู้สังเกตการณ์บนฟากฟ้าหาใช่เทพองค์ใดที่เฝ้ามองเราอย่างเอ็นดู หากแต่เป็นนกนางนวลฝูงใหญ่ที่ขณะนี้พวกมันบินโฉบลงมาเป็นร้อย ๆ ตัว ใช้กรงเล็บแหลมคมของพวกมันคว้าเอาพี่น้องของผมหายไปกว่าครึ่ง
พี่น้องของผมอีกครึ่งที่เหลือ ณ ตอนนี้ เรามาถึงยังทะเลแล้ว แต่การเดินทางของเรายังไม่สิ้นสุด พวกเราบางตัวที่ว่ายน้ำผ่านโขดหินก็จะมีเหล่าปูคอยดักอยู่อย่างใจจดใจจ่อ พวกมันรอเวลานี้มาเป็นเดือน ๆ กว่าที่พวกเราจะฟักตัวออกมาให้พวกมันได้ยลโฉม พอมันจับพวกเราตัวใดตัวหนึ่งได้ มันจะชูเราขึ้นมาเหนือน้ำราวกับประกาศศักดา รุมทึ้งเนื้อ ฉีกกระชากพวกเราออกเป็นชิ้น ๆ อย่างสนุกสนาน
เมื่อพวกเราจำนวนหนึ่งผ่านด่านโขดหินหฤโหดของพวกปูไปได้แล้ว ก็ถึงตาของฝูงปลานานาชนิดที่ดักรอเราอยู่ พวกมันพุ่งเข้ามาหาเราราวกับตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนเก่า งับ คาบ ขบเคี้ยว และกลืนกินพวกเราอย่างเมามัน
เผ่าพันธุ์ของเราที่ตอนเยาว์วัย แรงกัดยังไม่เต็มสูบดี กระดองยังไม่แข็งแรงนัก อีกทั้งเนื้อก็บอบบางและถูกฉีกทึ้งได้ง่าย เราจึงมักกลายเป็นเหยื่อของสัตว์แทบทุกชนิด และนี่คือ ‘กฎของธรรมชาติ’ ที่เรามิอาจหลีกเลี่ยงได้ตลอดชีวิตของเรา สัญชาตญาณการดิ้นเอาตัวรอด รวมถึงการจำยอมต่อโชคชะตานี้ถูกฝังลึกอยู่ภายใต้จิตสำนึกและกรรมพันธุ์ในสาแหรกของเราตลอดมา ถึงกระนั้น พวกเราก็เคยตั้งคำถามว่า เหตุใดต้องเป็นเรา? แต่โอซีอานัสก็ไม่ได้บอกอะไรเป็นพิเศษ เขาได้แต่บอกให้เราทำใจและรักษาตัวไว้ให้ดี เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ นี่คือวัฏจักรแห่งชีวิต และเขาคือบิดาผู้ให้กำเนิดแก่ทุกชีวิตในท้องสมุทร เขาจะลำเอียงและเลือกปฏิบัติได้อย่างไร?
วันเวลาผ่านไป พวกเราเติบโตผ่านช่วงชีวิตและวัฏจักรต่าง ๆ กิน นอน สืบพันธุ์ โดยปกติถ้านับเอาตั้งแต่เกิดจนถึงวัยที่โตพอจะสืบพันธุ์ได้นี้ พวกเราจากเดิมนับพันตัว จะเหลือรอดเพียง 1 ตัวเท่านั้น อาหารหลักที่ผมกินก็จะเป็นสาหร่ายทะเลและแมงกะพรุน พวกมันไม่มีต่อมรับความเจ็บปวด ผมจึงกินพวกมันได้อย่างไม่รู้สึกผิดมากนัก พวกเรานอนกันประมาณ 11 ชั่วโมงต่อวัน สืบพันธุ์ได้ทั้งบนบกและในน้ำ แต่เมื่อตัวเมียพร้อม พวกเธอจะขึ้นมาวางไข่บนบกในช่วงเวลากลางคืน
ครั้งหนึ่งผมเคยตั้งใจอยากไปส่งภรรยาของผมวางไข่ถึงบนฝั่ง ผมเฝ้าดูเธอบรรจงขุดหลุมลึกที่มีความสูงประมาณพอ ๆ กับดอกไม้ทะเลในแถบที่ผมโลดแล่นอยู่ประจำ เธอวางไข่ลูกของเราอย่างใจเย็น และค่อย ๆ กลบหน้าทรายเพื่อป้องกันลูกเราจากภยันตรายต่าง ๆ และขณะที่เรากำลังคลานกลับลงสู่ทะเลก็มี ‘มนุษย์’ กลุ่มหนึ่งวิ่งมาขุดหลุมที่เธอกลบเอาไว้ และเก็บเอาลูก ๆ ของเราไป คนหนึ่งชี้มาทางเรา แล้วพวกเขาก็พากันวิ่งมา ผมกระเสือกกระสนลงทะเล ‘สุดแรงเกิด’ อีกครั้ง แต่ภรรยาผมก็เกิดละล้าละลัง ใจหนึ่งก็กลัวถูกจับไป แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงลูก ๆ และสุดท้ายเธอก็ถูกจับไปจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าชะตากรรมของเธอเป็นอย่างไรในตอนนี้ ทำได้เพียงนึกภาวนาให้โอซีอานัสไปกระซิบบอกให้พวกเขาเห็นใจและปล่อยภรรยากับลูก ๆ ของผมไป แต่ก็ตามคาด ผมไม่ได้พบกับเธออีก…
ผมกลับลงสู่ทะเลได้สำเร็จ แต่ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย จึงได้แต่ลอยคว้างอยู่ในน้ำ… และครุ่นคิด
แต่ไม่นานนักสัญชาตญาณก็เริ่มทำงานนำอารมณ์ ท้องของผมเริ่มร้องบอกเวลาอาหาร ผมจึงจำต้องสลัดเรื่องในหัวออกไปก่อน โดยปกติผมมักจะไม่หากินแถบชายฝั่งมากนัก เพราะกลัวว่าจะโดนพวกมนุษย์จับไป แต่ครั้งนี้ผมเจอแมงกะพรุนตัวใหญ่ลอยผ่านมา ถึงผมจะแปลกใจที่เจอมันในแถบนี้ แต่ถึงกระนั้น ด้วยความหิวโหย ผมจึงตัดสินใจกินมันเป็นอาหารค่ำ แต่น่าแปลก แมงกะพรุนแถบชายฝั่งทั้งเหนียวและเคี้ยวยากชอบกล ไม่อร่อยเอาเสียเลย แต่ผมก็รีบกินเข้าไปจนหมด และรีบเข้านอนเผื่อว่าการนอนหลับจะช่วยให้ลืมเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นนั้นได้
ความรู้สึกเจ็บแปลบฉกรรจ์แล่นมาอย่างไวขณะที่ผมกำลังหลับอยู่ และยังคงเจ็บไปอีกสักพัก ก่อนที่ความเจ็บปวดนั้นจะสลายกลายเป็นความเคยชินไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ หลังจากวันนั้นผมก็ไม่หิวอีกเลย คงเป็นเพราะแมงกะพรุนตัวใหญ่นั้นที่ทำให้ผมอิ่มได้ถึงขนาดนี้
วันเวลาผ่านไป ร่างกายของผมเริ่มซูบผอมลงไปเรื่อย ๆ ผมไม่รู้สึกหิวเลย ถึงใจรู้สึกว่าต้องกิน แต่ก็กินไม่ลง เพราะเหมือนผมยังอิ่มและมีอาหารอยู่ในท้องตลอดเวลา หรือนั่นจะเป็น ‘แอมโบรเซีย’ ที่โอซีอานัสประทานมาให้ผมเป็นพรปลอบใจ พลางนึกไปว่า แอมโบรเซียหรืออาหารของเหล่าทวยเทพซึ่งทำให้ผู้เสพเสวยอิ่มทิพย์และกลายเป็นอมตะนี้ อย่างน้อยก็น่าจะรสชาติดีกว่านี้หรือเปล่า
แต่ไม่นานนัก เสียงกระซิบของโอซีอานัสดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครานี้กลับแผ่วเบา อ่อนโยน และอบอุ่นราวกับจะเป็นนมัสการสุดท้ายของเขา เขาพูดถึง… บ้าน อา… ผมจะได้กลับบ้านหรือ กลับสู่ถิ่นที่พำนักสุดท้ายของเหล่าสัตว์ทะเล เขาบอกให้ผมนอนพักผ่อนด้วยน้ำเสียงฟังดูสังเวชใจปนกับขุ่นเคืองใจเล็ก ๆ
แม้ผมจะเริ่มได้ยินไม่ถนัดแล้ว แต่ผมก็ยังพอฟังออกว่าเขากำลังสบถด่าพวกมนุษย์อยู่ ถึงกระนั้น โสตประสาทของผมก็หยุดทำงานไปเสียก่อนจะได้ยินว่าพวกมนุษย์ทำอะไรลงไปอีก บัดนี้ ร่างกายของผมเริ่มหมดเรี่ยวแรง ครีบที่บรรจงพาผมผจญภัยท่องไปทั่วมหาสมุทรก็หมดกำลังลง ร่างของผมหยุดลงท่ามกลางหมู่ดอกไม้ทะเลหลากสีที่โบกไสวเป็นจังหวะเดียวกับลำนำแห่งกระแสสมุทร ณ ที่นั่น ผมก็ผล็อยหลับไป… ตลอดกาล
.
เนื้อหา : เธียรธร เธียรสูตร
พิสูจน์อักษร : เธียรชัย ทองเงิน และ กัญญาวีร์ ศิริมโนรม
ภาพ : พัชรากร โชติศิลป์