Bangkok with more public spaces : ภาพฝันวันที่เมืองหลวงเต็มไปด้วยพื้นที่สาธารณะ
ฉันรักสวนสาธารณะเป็นอันดับต้น ๆ เลยล่ะ
เมื่อไอแดดสัมผัสผิวกาย เมื่อลมโชยอ่อนร่ายรำมาปะทะใบหน้า เมื่อฝ่าเท้าของฉันได้ย่ำลงบนผืนหญ้า ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันมีชีวิตและลมหายใจ สวนสาธารณะเป็นพื้นที่ที่มอบความสุขแสนบริสุทธิ์และวิเศษให้ฉันเสมอ พื้นที่ที่ฉันได้ใช้ร่วมกับผู้คนที่ไม่คุ้นหน้า และได้มองความเป็นไปของชีวิตทุกชีวิต ณ ที่แห่งนั้น
.
ทุกครั้งที่มีโอกาส ฉันมักชวนผู้คนรอบกายไปใช้เวลาร่วมกันในสวนสาธารณะ ฉันรักบทสนทนาที่ไม่มีที่มาที่ไปในขณะที่นั่งมองนกพิราบเดินผ่านไปมา ฉันสัมผัสได้ว่าการได้นั่งโดยที่ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและผู้คนแปลกหน้าผูกเราเข้าด้วยกันอย่างมหัศจรรย์ ฉันจึงบังเกิดความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่าธรรมชาติถูกสร้างมาพร้อมกับมนต์วิเศษ เวทมนตร์ที่ทำให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน พูดคุยเรื่องเดียวกัน มองเห็นสิ่งเดียวกัน และมองเห็นกันและกัน พื้นที่สาธารณะซึ่งเชื่อมผู้คนกับธรรมชาติเข้าด้วยกันเปรียบดังพื้นที่ที่เปี่ยมด้วยมนตราของการใช้ชีวิต
.
สังคมเมืองหลวงที่ทุกอย่างดำเนินไปบนการแลกเปลี่ยนเงินตรา มักส่งผลให้ผู้คนใช้ชีวิตไปบนการคาดคะเนความคุ้มค่าในทุกย่างก้าว ในเมืองที่มีต้นทุนจำกัด เราต่างแก่งแย่งเพื่อเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสิ่งที่มีไม่มาก แข่งกันว่าใครจะได้ที่นั่งในโซนร้านอาหารของห้างสรรพสินค้า แข่งกันจับจองที่นั่งในร้านกาแฟที่ต้องจ่ายค่าเครื่องดื่มราคาแพง เพียงเพราะไม่มีที่อื่นให้เราได้นั่งมองตาและพูดคุยกันได้อีกแล้ว มิหนำซ้ำยังต้องคอยรีบเร่งกิจวัตรเพื่อส่งต่อพื้นที่อันน้อยนิดให้คนถัดไปที่เฝ้ารออยู่ เวลาแห่งการปล่อยกายปล่อยใจจึงมีแสนจำกัด ความน่าเศร้าของพื้นที่เฉพาะเหล่านี้คือต้นทุนที่ทุกคนไม่ได้มีเท่ากัน หากเธอได้รับค่าตอบแทนการทำงานประจำวันเป็นค่าแรงขั้นต่ำของประเทศไทย กาแฟหนึ่งแก้วของคาเฟ่ในกรุงเทพมหานครจะมีราคาเกือบครึ่งหนึ่งของค่าตอบแทนนั้น และเป็นอย่างนั้นเสมอที่เธอต้องเลือกปากท้องก่อนความจรรโลงใจ แล้วทำไมเราเข้าถึงทั้งสองอย่างไปพร้อมกันไม่ได้เล่า
หากเรามีพื้นที่สาธารณะที่คนทุกคนสามารถหย่อนกายใช้สอยได้โดยไม่ต้องแก่งแย่ง โดยไม่ต้องมีหลักประกันเป็นเงินทองเพื่อใช้จับจ่ายความเป็นเจ้าของ มีเพียงสถานะการเป็นประชากร การเป็นมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นก็พอ ก็คงดี
.
ความช่างฝันของฉันคอยเล่าเรื่องราวในจินตนาการให้ฉันฟังเสมอ
เขาบอกกับฉันว่า หากเมืองซิวิไลซ์นี้มีพื้นที่เพียงพอให้ผู้คนจากต่างถิ่นต่างที่ได้มาแบ่งปันกัน การยอมรับกันในแบบที่ต่างคนเป็นจะเบ่งบาน
เขาให้ฉันลองนึกภาพ หากเรามีพื้นที่สาธารณะอันกว้างขวาง เราพบเจอคนที่รักแมวและคนที่แพ้ขนแมวในเวลาเดียวกัน เราจะพบคนที่กระโดดวิ่งเล่นกับสุนัขพันธุ์เล็กใหญ่ และปรากฏคนที่ตัวแอบสั่นเทาเวลาสุนัขเฉียดมาใกล้ ๆ ในความตรงกันข้ามเหล่านี้ สอนให้เราสร้างอาณาเขตความเคารพกันและกันในพื้นที่เปิด พื้นที่ที่เป็นของทุกคน ทุกตัว ทุกสิ่ง เราเรียนรู้ที่จะแบ่งปันพื้นที่กว้างโดยไม่ก้าวล้ำพื้นที่ส่วนตัวภายในจิตใจของกันและกัน
ในพื้นที่ที่ทุกคนเป็นเจ้าของนั้น เปิดโอกาสให้ความสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้โลดแล่น กิจกรรมเดี่ยว กิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมกับสัตว์เลี้ยงสุดโปรด เดิน นอน วิ่ง เล่นกีฬา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานที่เดียว
หากได้นั่งเสพการใช้ชีวิตของผู้คน ความช่างฝันของฉันคงมีความสุขล้น
.
ความช่างฝันของฉันยังฉายภาพในความคิดต่อไปเรื่อย ๆ หนึ่งในสิ่งที่เขารักเกี่ยวกับนครแห่งนี้คือวัฒนธรรมอาหารที่เข้มข้น หากเราสามารถนำอาหารจากหลากหลายร้านค้ามาแบ่งปันกันในพื้นที่ส่วนรวมได้ก็ฟังดูน่าสนุกและอร่อยไม่ใช่น้อย นอกจากนี้ ผู้คนที่มีข้อจำกัดทางอาหารที่แตกต่างกันยังได้มีโอกาสใช้เวลาสานสัมพันธ์ผ่านการรับประทานอาหาร โดยแต่ละคนก็ตระเตรียมอาหารที่ตนรับประทานได้มา และแบ่งปันพื้นที่บนโต๊ะอาหารร่วมกัน
ฉันเองก็มีความหวังว่า ถ้าเราได้มีพื้นที่ร่มรื่นที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ฉันคงได้หาที่งีบหลับสักจุดใกล้ ๆ ต้นไม้สักต้น มีลมพัดอ่อน ๆ มาแตะต้องกาย คงคลายความหนักหน่วงของแต่ละวันไปได้พอดู
และถ้าหาก... ฉันได้นั่งมองความสวยงามของเธอ คนที่ฉันรัก ในสถานที่ที่ฉันรัก ชีวิตของฉันคงเต็มไปด้วยสีสันสดใส สดใสจนฉันคงเกือบลืมไปว่าความหม่นหมองนั้นเป็นอย่างไร เพราะแสงอาทิตย์ยามพลบงดงามที่สุดเมื่อสะท้อนออกมาจากดวงตาของเธอ การเคลื่อนไหวของลมอ่อนช้อยที่สุดเมื่อสัมผัสปลายผมของเธอให้พลิ้วไหว และหัวใจของฉันถูกปลุกให้มีชีวิตทุกคราเมื่อฝ่ามือของเราสัมผัสกันโดยมีผืนฟ้าเป็นพยาน
.
หากเมืองกรุงเทพฯ แสนซิวิไลซ์นี้เปิดโอกาสให้พวกเราได้รักการใช้เวลาร่วมกัน รักการเคารพซึ่งกันและกัน รักการมีชีวิต และรักกัน... คงจะดี
.
เนื้อหา : อนันตญา กาฮ์นี
พิสูจน์อักษร : ชามา หาญสุขยงค์ และ ธมนวรรณ ฟักเล็ก
ภาพ : อิงฟ้า หมวดทอง