31st

31st

.

สามสิบเอ็ดธันวาคม ห้าทุ่มสามสิบเอ็ดนาที ‘นายปีใหม่’ สาวเท้าเรื่อยไปตามทางเท้า เหลือบมองหน้าปัดเหล็กบนข้อมือแล้วยกแขนข้างเดียวกันนั้นขึ้นดันแว่นด้วยสีหน้าเรียบเฉย สวนทางกับความรู้สึกหงุดหงิดเพราะรอยถากจากสายไนลอนบนบ่าขวา เขาเป็นพนักงานออฟฟิศวัยสามสิบเอ็ด เกิดวันที่สามสิบเอ็ด แต่น่าเสียดายที่เมื่อสามสิบเอ็ดปีก่อนเขาดันตกฟากตอนที่เข็มนาฬิกาชี้เวลาห้าทุ่มห้าสิบเก้า

.  

‘ปีใหม่’ ได้ชื่อนี้มาเพราะแม่อยากให้เด็กชายรู้สึกว่า หากประสบการณ์ชีวิตกระทำเขาให้แห้งเฉา หรือไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวใดขึ้นตลอดทั้งปีนั้น โอกาสแห่งการเริ่มต้นใหม่จะคอยเขาอยู่ทุกครา คราวสิ้นปีหวนมาถึง

.

ลมเย็น ๆ อันเป็นเอกลักษณ์แห่งฤดูพัดขนาบถนนแปดเลนในวันสิ้นปีของ ‘เมืองเทพสร้าง’ ดูโหวงเหวงแต่น่าสงบพิกล หินทางเท้าโดกเดกที่ย่ำผ่านไปและกำลังจะผ่านมาทำเขาคิดถึงพวงกุญแจหน้าตาแปลก ๆ ที่เคยทำหล่นไว้แถวนี้ระหว่างทางกลับที่พัก

.

…เขาลืมมันไปแล้ว

.

ลืมไปแล้วว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้ที่จังหวัดบ้านเกิด สายลมหนาวจะล่องมาพร้อมสัมผัสแสนนุ่มนวลของกลิ่นมะลิสด เสียงประสานพรของขบวนพระบิณฑบาต และการไหวน้อย ๆ ของเรือนแพริมสองฝั่งแม่น้ำน่าน กลิ่นข้าวต้มเครื่องกับไข่ลวกหอมกรุ่นจะสะกิดเด็กชายปีใหม่ให้ตื่นขึ้นจากฝันหวาน พออิ่มท้องแล้วก็อาจจะปั่นจักรยานคู่ใจสุดกำลังไปเล่นซนกับเพื่อนข้างบ้าน วัยนั้นของเด็กผมเกรียนคงพะวงอยู่แค่จะซิ่งหนีไอ้ด่างบางแก้วบ้านยายขายสาคูอย่างไรให้ทัน

.

ส่วนนายปีใหม่เดี๋ยวนี้มักจะถูกกระชากให้ตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุก โดนผลักให้ลุกไปทำหน้าที่อันซ้ำซากของเฟืองในระบบเหมือนอีกวัน รุดอาบน้ำแล้วก็ต้องรีบหอบแล็ปท็อปวิ่งไปโหนตู้เหล็กที่วิ่งเหนือรางจ่ายไฟให้ทันก่อนเจ็ดโมงครึ่ง ไม่มีเวลาให้สำเหนียกว่าได้โยนข้าวเข้าปากตนไปหรือยัง คำถามชวนพะวงเรื่องเงินเดือนและความก้าวหน้าของอาชีพการงานอาจจะแวบผ่านเข้าสมองมาเป็นระยะ กระแสลมเย็นและกลิ่นหอมรวยรินที่สูดเข้าฆานประสาทมักเป็นเครื่องปรับอากาศกับสเปรย์ดับกลิ่นของเพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ

.

เด็กชายปีใหม่ตอนอายุสิบสอง เคยฝันอยากเป็นนักแข่งการ์ดยูกิมืออาชีพ ฉายาไร้พ่ายไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

.

นายปีใหม่ตอนอายุยี่สิบสาม ยอมสมัครงานประจำ เพราะการเป็นช่างภาพอิสระตามฝันไม่อาจหล่อเลี้ยงชีวิตได้

.

เด็กชายปีใหม่ตอนอายุสิบสี่ เก่งคณิตศาสตร์จนเพื่อนเรียกเทพเจ้า เขาชอบคิดคำนวณจนคิดฝันอยากทำงานที่นาซา

.

นายปีใหม่ตอนอายุเกือบสามสิบ ถูกแฟนที่คบมาตั้งแต่ก่อนเรียนจบบอกเลิกเพราะ เขา ‘ไร้ความทะเยอทะยาน’

.

นายปีใหม่เพิ่งรู้ตัวตอนห้าทุ่มสามสิบเอ็ดนาทีว่า เขาเลิกมองหาตุ๊กตามอมแมมตัวนั้น ตัวที่ห้อยติดมาจากพิษณุโลกไปนานมากแล้ว นานพอจนเขาเลิกนับว่าหนนี้เป็นวันสิ้นปีหนที่เท่าไรของตนในกรุงเทพฯ พยายามนึกเท่าใด หน้าตาของมันในความทรงจำเขาก็ยิ่งดูขุ่นมัวลงไปทุกที หลงลืมว่าทำไมจึงตัดสินใจพกมันไว้ที่กระเป๋า สับสนว่าแท้จริงแล้วมันเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตุ๊กตาหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับมั่นใจอย่างแน่แท้ว่าเคยมีบางอย่างที่ติดอยู่กับตนก่อนหน้านี้ นายปีใหม่แค่เผลอลืมมันไปเสียสนิทแล้ว

.

ปีใหม่ไม่ได้อายุสิบเอ็ด หรือยี่สิบเอ็ดมานานเกินจะระลึก แต่ชายหนุ่มเชื่ออยู่เสมอว่าตัวเขายังเป็นปีใหม่คนเดิมกับที่สองแคว ทว่าพอแหงนมอง ไฟสามสีติดแผงเหล็กก็ดูสว่างไสวสวนทางกับความมั่นคงในใจเขาเสียจนชวนหัว เขาลืมแล้วว่าตนเคยชื่นชมเสียงแตร สายไฟระโยงระยาง หรือความเร่งร้อนในเมืองหลวงแห่งนี้ไปได้เสียอย่างไร บัดนี้เหลือเพียงร่างผู้เฉยเมยต่อการถูกนครอันรุ่งโรจน์ควั่นข่วนก้อนเนื้อในอกคล้ายกับหมดแรงจะปกป้อง ถึงขนาดจำนนปล่อยให้มันเต้นอ่อนลงทุกปีอย่างป่วยการจะแตะต้อง

.

การมาถึงของอายุที่มากขึ้น แลกกับการจากไปของความฝันที่แม้แต่ตอนนี้ตัวเขาเองก็หามันไม่เจอแล้ว

.

ต้นคริสต์มาสส่องไสว ไฟป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ ลมหนาว ความมืด คิ้วขมวด กลิ่นบุหรี่หรืออาจจะขยะเน่า เหล้าขมปร่า เสียงแล่นฉิวของรถไฟฟ้าเหนือหัว ความสัมพันธ์ที่สร้างและทำหายมาตลอดหลายปี บ่อน้ำตา อารมณ์คลางแคลงในตัวเอง ความฝันที่อาจจะยังอยู่หรือวิ่นแหว่ง

.

กรุงเทพฯ หยุดกระซิบเสียงชวนรำคาญใส่หูนายปีใหม่อย่างฉับพลัน เวลาห้าทุ่มห้าสิบแปดนาที หนแรกในขวบปีที่สามสิบเอ็ดของชีวิต เขาได้ยินเสียงแรงปะทะสม่ำเสมอในทรวง ปีใหม่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยยามค่อย ๆ ก้มลงจนคางชนอกเพื่อพินิจมองรอยบิ่นแตกที่ดวงใจ รอยบิ่นซึ่งประทับอยู่เฉกเก่าและยังกร่อนร่นเข้าไปอยู่เนืองนิจ

.

‘ถ้าปีเริ่มต้นใหม่มาทั้งชีวิต แต่จนตอนนี้ก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม แม่จะว่าปีล้มเหลวไหม’

.

การเผชิญโลกกว้างนั้นเยาะเย้ยเราเสียจนต้องยอมจำนนบีบความฝันของตัวเองให้แฟบเล็กลงอยู่เรื่อย ๆ แต่กระนั้นมันก็ยังดูยิ่งใหญ่เกินกว่าจะสำเร็จ ปีใหม่หลงลืมความจริงข้อหนึ่งไป ความจริงข้อที่ว่าตัวเขาเองเดินทางออกจากจุดเริ่มต้นมาไกลมากแล้ว

.

นายปีใหม่หมายใจเพียงเส้นชัยอันลิบตา จนลืมตระหนักว่าเหงื่อจากการข้ามสะพานลอยมาเมื่อครู่แห้งเหือดไปเสียสนิทแล้ว ลืมตระหนักว่ารูปรับปริญญายังทำให้แม่ของเขายิ้มทุกครั้งที่เดินผ่าน ลืมตระหนักว่า ‘ไอ้ปีใหม่ตอนสิบแปด’ ทำงานพิเศษหนักแค่ไหนเพื่อให้ได้กล้องตัวแรกในชีวิต

.

ลืมตระหนักไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเขาเคยสาบานว่าจะทำทุกอย่างให้ตัวเองได้มายืนอยู่จุดนี้

.

สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นการเติบโตซึ่งนายปีใหม่เผลอวางทิ้งไว้แล้วลืมหยิบมาใส่ใจ หรือบางทีอาจจะทำหล่นไปเหมือนพวงกุญแจหน้าตาแปลก ๆ ที่เคยว่า

.

สุดท้ายการเผอเรอเหล่านั้นก็กะเทาะรอยบิ่นบนหัวใจนายปีใหม่ หล่นตกเป็นเศษอยู่รายทาง

.

ดอกไม้ไฟระเบิดประกายวาบเหนือป่าคอนกรีตสูงชะลูด กลิ่นเฉพาะของฤดูหนาวจางอ่อนลงแต่ก็ทิ้งตัวนิ่งให้สัมผัส ขณะนั้นมี ‘แสงหนึ่ง’ ซึ่งผลิแตกออกทัดเทียมเทียนวันเกิดขนาดยักษ์บนท้องฟ้าของนายปีใหม่ เขาเดาว่าคงเป็นอะไรสักอย่างที่ตรงข้ามกับการหลงลืม

.

…พวงกุญแจตัวนั้นเป็นตุ๊กตาหมาบางแก้วลายด่าง เขาถอดจากกระเป๋าแล้วเก็บไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอน มันไม่เคยตกอยู่แถวนี้ ไม่เคยมีอะไรตกอยู่แถวนี้แต่แรก

.

หนึ่งมกราคม หนึ่งนาที ‘นายปีใหม่’ ได้โอกาสเริ่มต้นใหม่เป็นหนที่สามสิบสอง เขารู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกยามปลายนิ้วระริกได้แตะกระทบกลิ่นอายความหนาว เปลือกตาปิดลงเพื่อชื่นชมแสงจรัสอันเจิดจ้าเบื้องหน้า ก่อนระบายยิ้มอ่อนด้วยภาพก้อนเนื้อที่วิ่นแหว่งในช่องอก

.

หรือบางที คงจะถึงเวลากลับบ้านไปเอาตุ๊กตาหมามอมตัวนั้นกลับมาห้อยกระเป๋าแล้ว

.

สุขสันต์วันปีใหม่นะ

เนื้อหา: 18th

พิสูจน์อักษร: ณิชาภัทร สมบูรณ์วรรณะ และ ปวีณ์ธิดา

ภาพ: มอนอ